สำหรับใครที่ชื่นชอบในการกินหน่อไม้นั้น คุณจะต้องรู้จักชื่อของ “ไผ่เลี้ยง” กันก่อนเลยค่ะ ซึ่งไผ่ชนิดนี้เขาก็เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่าไผ่หวาน ด้วยความที่ผลของเขานั้นเป็นหน่อไม้ค่ะและเป็นหน่อไม้ที่มีรสชาติค่อนข้างหวาน ซึ่งก็เป็นที่ถูกใจของใครหลาย ๆ คน มาก ๆ อีกทั้งยังสามารถที่จะนำมาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลายเมนูอีกด้วย เพราะฉะนั้นวันนี้บทความขงเราก็มีความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับไผ่เลี้ยงมาแนะนำให้ทุกท่านได้ดูกันค่ะว่าจะมีสิ่งใดที่น่ารู้ในต้นไม้ชนิดนี้กันบ้าง
ทำความรู้จัก ไผ่เลี้ยง หรือไผ่หวาน พืชเศรษฐกิจน่าปลูกตลอดกาล
ไผ่เลี้ยง ถือได้ว่าเป็นต้นไผ่ที่สามารถออกหน่อได้ทั้งปี จึงเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจที่นอกจากจะสามารถให้ร่มเงาและมีความเย็นสบายแล้วนั้น ก็ยังสร้างรายได้ให้กับผู้คนได้อย่างมากมายเลยทีเดียว จึงทำให้ใครหลาย ๆ คน เริ่มที่จะหาพันธุ์ของไผ่เลี้ยงมาทำการปลูกเอาไว้กันบ้าง และที่สำคัญต้นไผ่นั้นก็มีหลากหลายสายพันธุ์ค่ะ แต่วันนี้บทความของเราจะพาทุกท่านมารู้จักกับไผ่เลี้ยงกันให้มากยิ่งขึ้นกัน จะมีสิ่งใดที่น่ารู้ในต้นไม้ชนิดนี้บ้างนั้นเราก็มาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ
ลักษณะของไผ่เลี้ยง
ลักษณะของไผ่เลี้ยงนั้นเขาจะเป็นไผ่ขนาดกลาง ที่ลำต้นตั้งตรงมีสีเขียวตลอดทั้งต้น มีเนื้อหนา ส่วนของหน่อนั้นจะมีสีเขียวอมเหลือง ไม่มีขนที่กาบใบเหมือนกับไผ่ชนิดอื่น ซึ่งความพิเศษของเขาก็จะอยู่ตรงที่เขาจะไม่มีหนามหรือว่าขนใด ๆ มาให้กวนใจเลยนั่นเองค่ะ ซึ่งก็จะทำให้ผู้ที่มีอาการแพ้ง่ายเมื่อสัมผัสนั้นไม่เป็นอะไร ทำให้ทุกคนสามารถที่จะเลือกซื้อมาปลูกได้อย่างง่ายดายนั่นเองค่ะ
วิธีดูแลไผ่เลี้ยง
สำหรับวิธีดูแลไผ่เลี้ยงนั้นสิ่งแรกที่จำเป็นจะต้องคำนึงถึงในวิธีการดูแลเลยนั่นก็คือเรื่องของสภาพดินและสภาพอากาศค่ะ โดยดินที่ปลูกนั้นจะต้องเป็นดินร่วนปนทรายค่ะ เพราะจะทำให้น้ำสามารถดูดซึมได้อดี อีกทั้งยังทำให้แร่ธาตุต่าง ๆ นั้น เข้าสู่รากของต้นได้ดีอีกด้วย และหากเป็นดินเหนียวหรือดินลูกรังนั้นก็ไม่แนะนำให้ใช้ค่ะ เนื่องจากดินเหล่านั้นจะทำให้จะทำให้หน่อไม้ที่โผล่ขึ้นมานั้นมีคุณภาพที่ต่ำ ซึ่งก็อาจจะทำให้รสชาติหรือขนาดของมันไม่ควรจะเป็นอย่างที่ควรนั่นเองค่ะ
การขยายพันธุ์
สำหรับวิธีการขยายพันธุ์ที่ดีที่สุดนั้นก็คือการแยกเหง้าค่ะ โดยจะสามารถเริ่มแยกได้เมื่อไผ่มีอายุ 2-3 ปี จึงจะดีที่สุด เพราะหากอายุของมันเกิน 3 ปี ไปแล้วนั้น ก็จะทำให้ไผ่ที่ได้มามีคุณภาพที่ต่ำหรือไม่แข็งแรงมากนัก ซึ่งก็จะส่งผลไปถึงเรื่องของการเกิดหน่อและเรื่องของการเจริญเติบโตของต้นไผ่ที่อาจจะไม่ได้ดั่งใจคุณเสียเท่าไหร่ ดังนั้นการเลือกต้นที่มีอายุ 2-3 ปี จึงดีที่สุดนั่นเอง โดยขนาดของลำต้นนั้นก็จะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 50-80 ซม. ก็พอค่ะ โดนจะต้องดูแลเขาให้ดูจนถึงอายุ 8-12 เดือนค่ะ ซึ่งในช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงที่คุณสามารถนำเขาลงแปลงเพื่อขยายพันธุ์ต่อไปได้แล้ว อีกทั้งยังออกหน่อตลอดทั้งปี ให้คุณได้หน่อไม้หวาน ๆ มาใช้สำหรับการรับประทานหรือนำไปสร้างรายได้ได้อีกทางนั่นเองค่ะ
สายพันธุ์ของไผ่เลี้ยง
สายพันธุ์ของไผ่เลี้ยงจะมีอยู่ 2 สายพันธุ์ ได้แก่
- ไผ่เลี้ยงพันธุ์หนัก
ไผ่เลี้ยงพันธุ์หนัก เป็นสายพันธุ์ของไผ่เลี้ยงที่เติบโตได้ดีในช่วงฤดูฝนค่ะ โดยไผ่สายพันธุ์นี้เขาจะมีราคาที่สูงกว่าอีกสายพันธุ์ อีกทั้งหากจะนำไผ่สายพันธุ์นี้ไปทำการขยายพันธุ์ต่อก็จะต้องดูแลอย่างดี มีต้นทุนที่สูง แต่เรื่องของการออกหน่อนั้นจะออกเพียงแค่ช่วงฤดูฝนบ่อยที่สุดค่ะ
- ไผ่เลี้ยงพันธุ์เบา
ไผ่เลี้ยงพันธุ์เบา เป็นสายพันธุ์ของไผ่เลี้ยงที่มีการเติบโตได้ดีในช่วงฤดูฝนเช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งในสายพันธุ์นี้เขาจะเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับในความิยมปลูกมากที่สุดค่ะ เพราะมันยังสามารถที่จะเติบโตนอกฤดูกาลได้ด้วยนั่นเอง ซึ่งก็เป็นผลทำให้หน่อไม้สามารถเติบโตได้ตลอด ซึ่งก็เป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำให้ชาวบ้านและชาวสวนนั้นแนะนำให้ปลูกมาก ๆ เพราะใช้ต้นทุนน้อย ยิ่งถเมีน้ำดีดินดี ก็จะยิ่งทำให้หน่อไม้ขึ้นได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
สำหรับผลผลิตของต้นไผ่นั้นก็คือหน่อไม้ และการที่หน่อไม้จะขึ้นมากหรือขึ้นมาน้อยนั้นก็จะอยู่ที่เรื่องของการเตรียมดินและการเลือกพื้นที่สำหรับการปลูกเป็นอันดับแรกค่ะ ซึ่งก็จะเป็นอย่างที่เราได้บอกไปเบื้องต้นจึงจะทำให้ไผ่ได้ผลผลิตที่ดีนั่นเอง
และนี่ก็คือเรื่องที่น่ารู้เกี่ยวกับไผ่เลี้ยงที่เราได้นำมาแนะนำให้ทุกท่านได้ดูกันนั่นเองค่ะ โดยต้นไม้ชนิดนี้เรียกได้ว่าเนต้นไม้ที่เอกลักษณืเฉพาะตัว สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย รวมไปถึงยังสามารถสร้างรายได้ได้อย่างมากมายเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นหากใครที่อยากลองปลูกนั้น ก็ลองหาซื้อสายพันธุ์มาปลูกดูได้เลยค่ะ รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน
https://media.komchadluek.net/
อ่านต่อที่ ต้นไม้ใหญ่