ต้นรักที่เราพบเห็นกันนั้น จุดเด่นที่ทำให้เราหยุดมองเลยก็คือ ดอกรัก ที่มีความสวยงามและแปลกตาแต่ก็สามารถทำประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ซึ่งเป็นดอกไม้ที่คนไทยชื่นชอบมาก ๆ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมเหมือนกับเครื่องหอมของคนในสมัยโบราณ จึงได้นำดอกไม้ชนิดนี้มาใช้ทำพวงมาลัย และก็ใช่ค่ะดอกไม้ชนิดนี้สามารถสร้างรายได้ที่ดีให้แก่คนไทยของเราได้เป็นอย่างดีเลย ดังนั้นวันนี้เราจึงได้นำเรื่องราวของดอกรักที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์หรือสรรพคุณที่คุณเองก็อาจไม่รู้มาก่อน
เรื่องน่ารู้ของ ดอกรัก ที่คุณรู้แล้วจะหลงรัก
ลักษณะ ต้นรัก
รัก เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เป็นทรงพุ่มขนาดกลาง โดยขนาดความสูงของต้นไม้จะอยู่ที่ประมาณ 1-3 เมตร บริเวณลำต้นจะมีเนื้อไม้และจะแตกกิ่งก้านมากที่บริเวณโคนต้น ในบริเวณด้านข้างนั้นก็จะมีการแตกกิ่งก้านสาขาออกมาเช่นเดียวกัน บริเวณลำต้นนั้นจะมียางสีขาว ๆ ออกมา จัดเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ออกดอกเป็นช่อเหมือนซี่ร่ม ซึ่งในแต่ละช่อนั้นก็จะออกดอกย่อยจำนวนมาก โดยตรงกลางดอกจะมีลักษณะคล้ายมงกุฎ นิยมใช้ร้อยพวงมาลัย ซึ่งจะมีกลิ่นหอม แต่จะไม่ค่อยทนแดด จึงจำเป็นต้องปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดเพียงรำไร
ความหมาย ต้นรัก
ในประเทศอินเดียนั้นจะเรียกดอกรักว่า “อรัก” ซึ่งหากแปลเป็นความหมายแบบตรงตัวก็จะหมายถึง “ไม่รัก” ซึ่งก็ถือว่าเป็นชื่อที่มีความหมายไม่เป็นมงคลเอาเสียเลย ทางประเทศไทยจึงได้เรียกดอกไม้ชนิดนี้ว่าดอกรักที่จะทำให้ความหมายของดอกไม้นั้นเปลี่ยนไปและสามารถนำไปใช้ได้ในงานพิธีสำคัญต่าง ๆ นั่นเอง ซึ่งดอกรักนี้ก็จะมีความหมายที่ตรงตามกับชื่อเลยเลยค่ะ เพราะคำว่า “รัก” นั้น แทบจะไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ จึงนิยมใช้ดอกรักในการนำมาไหว้บุพการีหรือผู้ที่เคารพนับถือนั่นเอง
ซึ่งดอกรักนี้หากพบเจอในวรรณคดีนั้นก็จะมีความหมายเกี่ยวกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ หรือความพิศวาทของชายหญิงที่มีต่อกัน จึงพบว่าต้นรักนั้นไม่เป็นที่นิยมในการปลูกในบ้านเสียเท่าไหร่ เพราะเนื่องจากคำว่ารักที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้น จะหมายถึงการที่จะทำให้ความรักของคุณเองมีความยุ่งยากและอาจพบเจออุปสรรคมากมายในชีวิตรักก็เป็นได้ ดังนั้นจึงไม่นิยมที่จะปลูกต้นไม้ชนิดนี้เอาไว้ในบ้าน รวมถึงยังไม่เป็นที่นิยมในการนำไปให้คนรักในวันสำคัญอีกด้วย
สรรพคุณและประโยชน์ของ ดอกรัก
ต้นรักนั้นมีสรรพคุณในทางยาสมุนไพรที่หลากหลายมากเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องของการแก้โรคบิด แก้อาการอาเจียนและช่วยขับเหงื่อโดยการใช้ส่วนของเปลือกราก ยางสีขาวที่มักจะออกอยู่ทั่วทั้งต้นนั้นสมารถใช้ในการขับพยาธิหรืออาจใช้เป็นยาถ่ายชนิดรุนแรงและหากใช้ทางภายนอกก็จะสามารถรักษาอาการกลากเกลื้อนได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จำเป็นที่จะต้องสังเกตสีของยางด้วย เพราะหากยางเป็นสีขาวขุ่นนั้นเมื่อนำมาสัมผัสหรือถูกผิวหนังหนังอาจทำให้เกิดการระคายเคือง คัน แสบ หรือปวดแสบปวดร้อนในบริเวณที่ถูกได้
ซึ่งประโยชน์ที่สำคัญในประเทศไทยเลยก็คือเรื่องของการอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน โดยการนำดอกรักนี้มาร้อยเป็นพวงมาลัยเพื่อใช้ในการจำหน่ายในวันสำคัญต่าง ๆ จึงทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ต้องการดอกรักเป็นจำนวนมาก และในพิธีแต่งงานของไทยก็มักจะใช้ดอกรักมาแขวนคอให้แก่คู่บ่าวสาวและใช้ใบเนตัวรองก้นของขันสินสอด ซึ่งก็จะสื่อถึงความรักที่ทั้งคู่มีให้แก่กันนั่นเอง และนอกจากนี้เนื้อไม้ของต้นรักก็ยังสามารถนำมาทำเป็นถ่านที่ใช้ในการติดไฟได้อีกด้วย
ต้นรักเป็นพืชมีพิษ
นอกจากในด้านของสรรพคุณและประโยชน์อันมากมายแล้วนั้น ต้นรักก็ยังมีข้อเสียข้อหนึ่งซึ่งก็คือ “พิษ” ที่คงมีอยู่ในต้นรัก โดยยางของต้นรักนั้นเป็นพิษซึ่งหากเข้าตาอาจทำให้ตาบอดได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเราจึงมักจะเห็นผู้ที่ทำการเก็บดอกรักนั้นจะแต่งกายอย่างมิดชิดตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะหากยางสัมผัสที่ส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายก็อาจทำเกิดการระคายเคืองและปวดแสบปวดร้อน ร่วมกับการคันด้วยก็ได้ จึงจำเนที่จะต้องแต่งกายอย่างรัดกุมเมื่อจะต้องเก็บดอกรักนั่นเอง
และพิษอีกอย่างที่ร้ายแรงนั่นก็คือยางและใบของมันนั้นมีพิษที่จะทำให้เยื่อบุในกระเพาะอาหารทำงานผิดปกติ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการอาเจียน วิงเวียนศีรษะ และปวดท้อง ซึ่งหากใครที่รับประทานเข้าไปจะต้องรีบส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการล้างท้องในทันที มิเช่นนั้นพิษจะแล่นเข้าสู่หัวใจซึ่งก็เป็นอันตรายต่อชีวิตมาก
อย่างไรก็ตามดอกรักนั้นก็ถือว่าเป็นดอกไม้ที่คนไทยของเรายังจำเป็นต้องใช้เพื่อสร้างรายได้และทำให้อาชีพนั้นมั่นคง อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่สามารถช่วยให้ผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดีทีเดียว
Credit : https://medthai.com/