หางนกยูงอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมปลูกในประเทศไทยเป็นอย่างมากนั้นก็คือ หางนกยูงไทยนั่นเองค่ะ ซึ่งต้นหางนกยูงไทยนั้นก็เป็นต้นไม้ที่มีสีของดอกที่เป็นที่น่าจดจำมาก ๆ ค่ะ ด้วยความที่เขานั้นออดอกเป็นสีส้มอมเหลืองที่แสบเอาเรื่อง ทำให้เป็นสีสันที่สะดุดตามาก ๆ เลยทีเดียว และวันนี้บทความของเราก็มีสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับต้นหางนกยูงไทยมาแนะนำให้ทุกท่านได้ดูกันค่ะ
ทำความรู้จัก หางนกยูงไทย ดอกสีส้วย ส้มได้ใจ ต่างกับหางนกยูงฝรั่งอย่างไร มาดูกัน
หลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่ทราบค่ะว่าต้นหางนกยูงนั้นเขาไม่ได้มีเพียงสายพันธุ์เดียว เพราะของส่วนใหญ่เขาก็จะมาคู่กันค่ะเมื่อมีไทยก็จะต้องมีฝรั่งเสมอ ซึ่งต้นหางนกยูงนี้ก็เช่นเดียวกัน เขาก็มีทั้งต้นหางนกยูงไทย และต้นหางนกยูงฝรั่งเลยล่ะค่ะ แต่เราที่เห็นกันบ่อย ๆ หรือบางคนต้องขับรถผ่านทุกวัน หรือต้องเดินผ่านมันทุกวันด้วยซ้ำนั้น จะทราบได้อย่างไรกันว่าต้นไม้ที่เราเห็นอยู่คือหางนกยูงไทยหรือหางนกยูงฝรั่ง เราก็มาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ
หนึ่งในเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับหางนกยูงไทยเลยนั่นก็คือ “ทำไมจึงเรียกว่าหางนกยูงไทย” เพราะต้นไชนิดนี้นั้นเขาไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในไทยค่ะ แต่เอมันไม่ได้มีเพียงสายพันธุ์เดียว การตั้งชื่อให้ดูแยกแยะได้ง่ายนั้นจึงมีความสะดวกกว่านั่นเอง โดยเขาก็จะมีการตั้งชื่อของสายพันธุ์หางนกยูงมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วค่ะ และด้วยความที่ในสมัยนั้นเรื่องของการคิดคำตั้งชื่อต่าง ๆ นั้น จะเป็นคำง่าย ๆ ที่มาจากกรเปรียบเทียบ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมจึงเรียกต้นหางนกยูงเช่นนี้
โดยเขาก็จะมีการแบ่งออกเป็นต้นหางนกยูงไทยและต้นหางนกยูงฝรั่งค่ะ แล้วถ้าถามว่าดูยังไงนั้น ก็ต้องบอกเลยค่ะวาต้นหางนกยูงทั้งสองชนิดนี้เขาไม่ได้เหมือนกันเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาดของต้นไม้ หรือจะเป็นสีของดอกที่ได้มีการออกดอกมา ทำให้คนในสมัยนั้นมีการแบ่งเป็นไทยผิวเหลืองตัวเล็กกับฝรั่งหน้าแดงตัวใหญ่ ซึ่งหากพูดเพียงเท่านี้เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านก็พอจะแยกออกแล้วล่ะค่ะ ว่าต้นไหนเป็นของไทยต้นไหนเป็นของฝรั่ง
แต่การเปรียบเทียบนี้ก็เป็นเพียงการจำแนกให้คุณสามารถแยกแยะได้ถูกค่ะว่าต้นไหนเป็นต้นไหนก็เท่านั้น โดยที่บอกว่าหางนกยูงไทยนั้นเปรียบได้กับคนไทยที่มีผิวเหลือง ก็ตรงตามที่บอกเลยค่ะ เพราะคนไทยเป็นคนที่มีกระดูกเล็กตัวจะเล็กและผิวนั้นจะไม่ขาวแต่ส่วนใหญ่จะเป็นผิวขาวเหลือง จึงได้นำคำกล่าวนี้มาเปรียบเทียบกับต้นหางนกยูงที่มีลำต้นขนาดปานกางและมีดอกที่ออกเป็นสีส้มอมเหลืองนั่นเอง
ส่วนของหางนกยูงฝรั่งหน้าแดงตัวใหญ่นั้น เขาก็จะหมายถึงลำต้นที่มีขนาดใหญ่กว่าแถมยังออดอกสีแดงสด เห็นมาแต่ไกล นั่นจึงทำให้พวกเราสามารถเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ซี่งในปัจจุบันนั้นเราก็สามารถพบเห็นต้นหางนกยูงไทยและหางนกยูงฝรั่งได้ในทุกภาคของประเทศไทยค่ะ อีกทั้งยังได้รับความนิยมในการนำมาปลูกอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากใครที่ยังแยกแยะระหว่างต้นไม้ทั้งสองชนิดนี้ไม่ออกก็จำแบบที่เราบอกไปได้เลยค่ะ
ซึ่งหางนกยูงไทยนั้นเขาก็จะเป็นต้นไม้ที่มีลำต้นสูงประมาณ 3-5 เมตร ที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางไปจนถึงอเมริกาใต้ ซึ่งเขาก็จะออกดอกที่มีสีส้มอมเหลืองที่มีความสวยงามและมีความโดดเด่นไม่แพ้กับของหางนกยูงฝรั่งค่ะ ซึ่งของหางนกยูงฝรั่งนั้นเขาก็จะมีขนาดของลำต้นอยู่ที่ 12-18 เมตร เห็นจะได้ ซึ่งก็สูงกว่าต้นหางนกยูงไทยอยู่มากเลยทีเดียว มาพร้อมการออกดอกสีแดงที่มองเห็นได้ตั้งแต่ไกล ๆ อีกทั้งยังมีเรือนยอดที่แผ่กลางออกคล้ายกับร่มให้เราได้เห็นอีกด้วย โดยเขามีถิ่นกำเนิดอยู่ที่บริเวณหมู่เกหาะมาดากัสการ์ค่ะ
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าต้นหางนกยูงทั้งสองชนิดนี้เขาจะมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดนั้น แต่ในเรื่องของความสวยงามก็ไม่มีใครยอมใคร เรียกได้ว่าต่างสวยงามไปคนละแบบ เพราะฉะนั้นหากใครอยากได้มาปลูกที่บ้านสักต้น ก็ลองหาซื้อมาปลูกกันได้เลยค่ะ
และนี่ก็คือความแตกต่างระหว่างต้นหางนกยูงไทยและต้นหางนกยูงฝรั่งที่เราได้นำมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกันค่ะ ซึ่งต้นหางนกยูงนั้นก็นับว่าเป็นต้นไม้ที่ในปัจจุบันก็ยังคงน่าปลูกอยู่ แต่การนำมาปลูกภายในพื้นที่ของบริเวณบ้านนนั้นอาจจะไม่ค่อยโอเคเสียเท่าไหร่ เนื่องจากขนาดของต้นที่ใหญ่ อีกทั้งเรื่องของปัญหาดอกและใบที่มักจะร่วงอยู่ตลอด ๆ ทำให้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากไปสักหน่อยนั่นเอง เพราะฉะนั้นหากใครที่ยังคงสงสัยเรื่องของความแตกต่างระหว่างต้นหางนกยูงทั้งสองสายพันธุ์นี้ ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ที่บทความของเราได้เลยค่ะ
อ่านต่อที่ ต้นไม้มงคล